ขนาดสินค้ารวมบรรจุภัณฑ์ | (ก x ย x ส) 3.2 x 5 x 0.7 ซม. |
น้ำหนักรวมบรรจุภัณฑ์ | 0.1 |
พระเกจิ : พระเกจิคณาจารย์หลายรูป
ชื่อวัด : วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ
พุทธคุณ : สงบ ร่มเย็น เสริมบารมี ความเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้าในอาชีพการงาน เมตตา เจรจา มีความสุขความเจริญ ร่มเย็นเป็นสุข
เนื้อวัตถุมงคล : โลหะชนวน
ขนาดวัตถุมงคล : 1.9 x 3.3 x 0.2 ซม.
น้ำหนักวัตถุมงคล : 0.1 กก.
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าอาวาสลำดับที่ ๓ ของวัดบวรนิเวศวิหาร ในวาระที่พระองค์ได้สิ้นพระชนม์ไปครบ 50 ปี
คณะสงฆ์ทั่วประเทศ นำโดยมหาเถรสมาคม จึงได้จัดงานเพื่อรำลึกถึงพระคุณูประการของพระองค์ จึงได้จัดงาน "มหาสมณานุสรณ์ 50 ปี" ณ พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2514
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ เมื่อพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษาทรงผนวชเป็นพระภิกษุ
ทรงพระอัจฉริยะในวิทยาการต่างๆ หลายสาขา คือ พระพุทธศาสนาภาษาต่างๆ การศึกษา การปกครอง วิทยาการสมัยใหม่ต่างๆ อีกมาก พระองค์ได้ทรงดำเนินการตั้งมหามกุฎราชวิทยาลัย
ได้ทรงนำวิธีการและวิชาการแบบใหม่เข้ามาทดลองสอนและสอบในมหากุฎฯ เป็นการแรกเริ่ม ทรงทดลองใช้วิธีการแบบใหม่เหล่านี้ในโรงเรียนของมหามกุฎราชวิทยาลัยจนเป็นที่นิยมแพร่หลายออกไปอย่างรวดเร็ว
และได้รับผลสำเร็จเป็นอย่างดี นำไปสู่การจัดการตั้งต้นการศึกษาระดับประถมและมัธยมของเด็กไทย ในด้านการศึกษาคณะสงฆ์นั้น กล่าวได้ว่า พระองค์ท่านทรงเป็นผู้ให้กำเนิดการศึกษาแบบใหม่ของคณะสงฆ์
ดังที่ทราบกันทั่วไปในขณะนี้ว่า “นักธรรม”ซึ่งมี ๓ ชั้น คือนักธรรมชั้นตรี นักธรรมชั้นโท และนักธรรมชั้นเอก ทรงวางแนวแห่งการเผยแพร่พระพุทธศาสนาและจัดระดับธรรมต่างๆ
สำหรับสั่งสอนพุทธศาสนิกชนให้เหมาะสมกับบุคคลในระดับชั้นนั้นๆ ที่จะศึกษาให้รู้ให้เข้าใจ และนำไปประพฤติปฏิบัติได้ถูกต้อง รวมทั้งการจัดการปกครองคณะสงฆ์ให้เข้าระเบียบ ทรงวางระเบียบต่างๆ
อันเป็นการส่งเสริมให้พระภิกษุสามเณรประพฤติปฏิบัติพระธรรมวินัยด้วยความเรียบร้อย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเป็นพระราชอุปัธยาจารย์ของพระมหากษัตริย์ ๒ พระองค์
คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าและพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าอีกหลายพระองค์
ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่๑๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปรินายกได้ ๑๒ ปี ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหารได้ ๒๙ ปี สิ้นพระชนม์ เมื่อ วันที่๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๔ พระชนมายุ๖๒ พรรษา
ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร จ.กรุงเทพฯ
วัดบวรนิเวศวิหารมีสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปสำคัญอยู่ 2 องค์เป็นพระประธาน คือ พระพุทธสุวรรณเขต (หลวงพ่อโต) ที่อัญเชิญมาจากวัดสระตะพาน จังหวัดเพชรบุรี
และพระพุทธชินสีห์ อัญเชิญมาจากวิหารทิศเหนือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก ใต้ฐานพุทธบัลลังก์ พระพุทธชินสีห์ พระประธานในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร
เป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเคยผนวช ณ วัดนี้เมื่อยังทรงดำรงพระอิสริยยศที่สยามมกุฎราชกุมาร
ถัดจากพระอุโบสถออกไปเป็นเจดีย์กลมขนาดใหญ่ สร้างรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หุ้มกระเบื้องสีทอง รอบฐานพระเจดีย์มีศาลาจีนและซุ้มจีน ถัดออกไปเป็นวิหารเก๋งจีน นอกจากนี้ก็มีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือขรัวอินโข่ง
บริเวณรอบเจดีย์มีพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่ง คือ พระไพรีพินาศ ระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงผนวชและประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร โปรดเกล้าฯ ให้ประติมากรของกรมศิลปากรปั้นหุ่นและสร้างพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร
โดยเสด็จพระราชดำเนินหล่อพระพุทธรูปเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2499 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ได้ถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า "พระพุทธนาราวันตบพิตร
หาปัจจัยในการก่อสร้างอุโบสถดิน ณ วัดสิงห์ทอง จ.ยโสธร
วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ
1.พระแต่ละองค์อาจแตกต่างจากภาพ เนื่องจากเป็นพระเก่าที่สะสมไว้อยู่ในสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน
2.ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนวัตถุมงคล และกรุณาตรวจสอบความสมบูรณ์ของวัตถุมงคลก่อนออกจากร้าน เซเว่น อีเลฟเว่น
3.วัตถุมงคลอาจมีคราบดำ มีรูหรือรอยต่างๆที่เกิดจากกรรมวิธีการสร้าง หน้าตาอาจไม่คมชัด ซึ่งเป็นเสน่ห์ของพระแต่ละองค์ ทางวัดขออนุโมทนาในการร่วมสร้างบุญมา ณ โอกาสนี้