


ขนาดสินค้ารวมบรรจุภัณฑ์ | (ก x ย x ส) 4 x 5 x 2 ซม. |
น้ำหนักรวมบรรจุภัณฑ์ | 0.01 |
พระเกจิ : พระเกจิคณาจารย์หลายรูป อาทิ หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม,หลวงพ่อไพบูลย์ วัดอนาลโย,หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร,หลวงปู่ทิม วัดพระขาว,หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว ฯลฯ
ชื่อวัด : วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
พุทธคุณ : เมตตา มหานิยม เสริมบารมี แคล้วคลาด โชคลาภ ค้าขายร่ำรวย เพื่อความเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดปลอดภัย
เนื้อวัตถุมงคล : เนื้อผง
ขนาดวัตถุมงคล : 1.4x2.6x0.8 ซม.
น้ำหนักวัตถุมงคล : 0.01 กก.
ประวัติความเป็นมา พระไพรีพินาศ ประวัติการสร้าง พระไพรีพินาศ นั้นไม่ปรากฏแน่ชัด ทราบแต่เพียงว่ามีผู้นำมาทูลเกล้าฯ
ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) ตั้งแต่ครั้งทรงผนวช และประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร พระองค์ทรงเชื่อว่า
พระพุทธรูปองค์นี้มีอานุภาพกำจัดภัย ให้ผู้ที่คิดร้ายพ่ายแพ้พระบารมี เรื่องมีอยู่ว่า... นับตั้งแต่ สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎฯ ทรงผนวช เป็นต้นมา
ได้มีผู้ไม่หวังดีกลั่นแกล้งต่างๆ นานา โดยเจตนาจะไม่ให้ได้รับราชสมบัติ ที่เห็นชัดก็คือ เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยใกล้
จะเสด็จสวรรคต มีผู้ไปทูลอ้างรับสั่งให้ไปเฝ้า เมื่อเสด็จไปก็ถูกกักบริเวณให้อยู่ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ถึง ๗ วัน
ผู้ที่ต้องสงสัยว่าเป็นคนวางแผน ก็คือ กรมหลวงรักษ์รณเรศ ซึ่งทำตัวเป็นหัวเรือใหญ่ กีดกันไม่ให้สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎฯ ได้ราชสมบัติ
ท่านผู้นี้เคยแกล้งพระธรรมยุตที่เข้าไปรับบาตรในวัง โดยแกล้งเอาข้าวต้มร้อนๆ ใส่บาตร บาตรเหล็กถูกของร้อนก็ร้อนไปด้วย พระทนความ
ร้อนไม่ได้ก็ต้องโยนบาตรทิ้ง และกรมหลวงรักษ์รณเรศเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง จนถึงคิดจะเป็นพระเจ้าแผ่นดินเสียเองถ้ารัชกาลที่ ๓ สวรรคต
ทั้งยังเคยเจรจามั่นหมายไว้ว่า ถ้ามีวาสนาใหญ่โตจะมีสิทธิ์ขาดในแผ่นดินแล้ว ก็จะทำลายล้างสิ่งที่สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎฯ ทำไว้จนหมดสิ้น
เผอิญมีผู้ทำฎีกากล่าวโทษกรมหลวงรักษ์รณเรศด้วยข้อหาร้ายแรงหลายเรื่อง โปรดให้ชำระมีความผิดฉกรรจ์ จึงโปรดให้ลงพระราชอาชญา
แล้วให้สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๓๙๑ กล่าวกันว่าในเวลาใกล้เคียงกับที่กรมหลวงรักษ์รณเรศถูกสำเร็จโทษนั้น
มีคนอัญเชิญพระพุทธรูปศิลาแบบมหายาน ปางนั่งประทานอภัย มาถวายสมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎฯ ที่วัดบวรนิเวศวิหาร จึงโปรดถวายพระนามว่า
“พระไพรีพินาศ” เป็นนิมิตหมายว่าหมดศัตรูแล้ว ต่อมาเมื่อเสวยราชสมบัติได้ประมาณ ๒ ปี คือ พ.ศ. ๒๓๙๖ ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล “ผ่องพ้นไพรี”
เนื่องจากทรงหลุดพ้นจากการเบียดเบียนของศัตรูเป็นงานใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงนับถือกันว่า “พระไพรีพินาศ” เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
อันบันดาลให้ศัตรูพ่ายแพ้ไปในที่สุด ปัจจุบัน พระไพรีพินาศ ประดิษฐานอยู่ที่ซุ้มเก๋งด้านทิศเหนือของพระเจดีย์ประธานของวัดบวรนิเวศวิหาร
ในหนังสือศิลปกรรมวัดบวรนิเวศวิหารได้กล่าวถึงเจดีย์ที่สร้างเก๋งประดิษฐานพระไพรีพินาศไว้ตอนหนึ่งว่า พระเจดีย์ไพรีพินาศ เป็นพระเจดีย์ศิลา
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างขึ้นบรรจุพระพุทธวจนะ ประดิษฐานอยู่ในคูหาภายในเจดีย์ใหญ่วัดบวรนิเวศวิหาร
เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๗ ระหว่างการซ่อมแซมพระเจดีย์ได้พบกระดาษขาว มีตราแดง ๒ ดวง มีอักษรเขียนว่า "พระสถูปเจดียสิลาบัลลังองค์ จงมีนามว่า
"พระไพรีพินาศเจดียเทิญ" อีกหน้าหนึ่งเขียนไว้ว่า "เพราะตั้งแต่ทำแล้วมา คนไพรีก็วุ่นวายยับเยินไปโดยลำดับ"
คาถาบูชา พระไพรีพินาศ
พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ สุจิรัง ปะรินิพพุโต คุเณหิ ธะระมาโนทานิ ปาระมีหิ จะ ทิสสะติ ยาวะชีวัง
อะหัง พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณัง คะโต ปูเชมิ ระตะนัตตะยัง ธัมมัง จะรามิ โสตถินาฯ คำแปล คาถาบูชา พระไพรีพินาศ
แปลเป็นภาษาไทย โดย พระมหานายก (ฉลอง ชลิตกิจโจ) สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงเสด็จดับขันธปรินิพพานมาช้านานแล้ว
แต่ก็ยังทรงปรากฏดำรงอยู่ในบัดนี้ โดยพระคุณและพระบารมีทั้งหลาย ข้าพระพุทธเจ้า ถึง พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
บูชาอยู่ซึ่งพระรัตนตรัย ขอประพฤติธรรม โดยสวัสดี เทอญ ฯ
ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร จ.กรุงเทพฯ
หาปัจจัยในการก่อสร้างอุโบสถดิน ณ วัดสิงห์ทอง จ.ยโสธร
วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
1.พระแต่ละองค์อาจแตกต่างจากภาพ เนื่องจากเป็นพระเก่าที่สะสมไว้อยู่ในสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน
2.ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนวัตถุมงคล และกรุณาตรวจสอบความสมบูรณ์ของวัตถุมงคลก่อนออกจากร้าน เซเว่น อีเลฟเว่น
3.วัตถุมงคลอาจมีคราบดำ มีรูหรือรอยต่างๆที่เกิดจากกรรมวิธีการสร้าง หน้าตาอาจไม่คมชัด ซึ่งเป็นเสน่ห์ของพระแต่ละองค์ ทางวัดขออนุโมทนาในการร่วมสร้างบุญมา ณ โอกาสนี้